วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

สื่อโดนใจ..กระตุ้นจิตสำนึกสิงห์อมควัน



สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวบล็อกทุกท่าน.....

       ♪ ♫  สบายดีไหม จะไปทางไหน เดินมายังไง มากับใครหรือเปล่า  ♪ ♫ ♬  
( ฮี๊วว มาเป็นเพลงอีกล้ะ) คิดถึงกันบ้างไหมเนี่ย ลืมกันซะแล้วม้างเนี่ยหยุดปีใหม่หลายวันเกิน ฮี่ฮี่..
วันนี้น้ำก็มีอะไรดีดีมาแบ่งปันอีกเช่นเคยเน้อ..นี่ก็เริ่มเข้าสู่ปีใหม่2014กันแล้ว หลายๆคนยึดถือเอาวันปีใหม่เป็นฤกษ์งามยามดีในการที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ก้าวไปสู่สิ่งที่ดีดี..และน้ำก็เชื่อว่ามีหลายคนที่คิดว่า   ''เอาล่ะ ปีใหม่นี้ฉัน/ผม จะเลิกสูบบุหรี่แล้วนะ''  แหม..ถ้ามันเลิกกันง่ายๆก็ดีนะซิเนอะ จะเห็นได้ว่ามีการนำเสนอสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์เกี่ยวกับการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ ให้ตระหนักถึงโทษของบุหรี่ มากมายหลายโฆษณา ซึ่งเท่าที่น้ำดูมา ก็รู้สึกประทับใจกับสื่อโฆษณาตัวนี้มากที่สุด

        เจ้าตัวสื่อโฆษณาที่ว่านี้มีชื่อว่า ''Smoking Kid '' เพื่อนๆหลายๆคนคงได้ดูกันทางโทรทัศน์บ้างแล้วโดยส่วนตัวน้ำรู้สึกประทับใจตั้งแต่ดูครั้งแรก เพราะรู้สึกว่าเป็นสื่อโฆษณาที่เข้าถึงจิตใจผู้บริโภคได้ดี ทำให้ตระหนักและเข้าใจถึงภัยอันตรายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ไม่เพียงแต่ตัวผู้สูบเท่านั้น แต่ผู้คนที่อยู่ข้างเคียงก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย โดยสื่อโฆษณาดังกล่าวมีความยาว 1.43 นาที ถูกสร้างโดยบริษัทโอกิลวี เอเชีย  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ของหน่วยงานด้านสุขภาพแห่งหนึ่งของไทย  เอาล่ะ... ลองคลิกเข้าไปชมสื่อโฆษณาตัวนี้กันหน่อยเร้วววว ....
    

        สำหรับเนื้อหาในสื่อโฆษณาดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงหนูน้อยชายและหญิงรวม 2 คน เดินตรงเข้าไปหาบรรดาผู้ใหญ่ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ พร้อมถามคำถามบรรดาสิงห์อมควันเหล่านั้น ว่า “ขอไฟจุดบุหรี่ให้หนูบ้างได้ไหม?” โดยเนื้อหาในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ได้แสดงให้เห็นปฏิกิริยาของผู้ใหญ่ที่กำลังสูบบุหรี่ ซึ่งต่างปฏิเสธคำขอของหนูน้อย พร้อมทั้งอธิบายถึงพิษภัยนานัปการของบุหรี่ที่มีต่อสุขภาพให้ฟัง (สังเกตได้จากคำพูด เช่น' หนูจะสูบเองจริงๆเหรอ ,ไม่ให้นะ, อย่าสูบเลย มันมียาฆ่าแมลงอยู่ในบุหรี่ด้วยนะ, สูบแล้วหน้าแก่นะ,สูบบุหรี่แล้วตายเร็วไม่อยากอยู่นานๆเหรอ, ไม่ดีรู้เปล่า..สูบแล้วเป็นทั้งมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง เส้นเลือดในสมองแตก) ก่อนที่เด็กน้อยจะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีข้อความว่า “ไม่ดีแล้วพี่สูบทำไม ห่วงหนูแล้วทำไมไม่เคยห่วงตัวเอง” ให้กับพวกเขาเหล่านั้น ทำเอาผู้ใหญ่ที่กำลังสูบบุหรี่ในภาพยนตร์โฆษณาถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีผู้ใดที่ทิ้งกระดาษแผ่นดังกล่าวเลยแม้แต่รายเดียว
       
         เพื่อนๆดูจบแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับน้ำคิดว่าสื่อโฆษณาตัวนี้จเป็นสื่อตัวหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นความรู้สึกของผู้ที่สูบบุหรี่ให้ฉุกคิดขึ้นมาได้บ้างว่าโทษของบุหรี่มันร้ายแรงเพียงใดมีแต่จะให้โทษทำร้ายทั้งตัวผู้สูบเองและคนรอบข้าง ที่น่าคิดก็คือค็อนเซ็ปสื่อตโฆษณาตัวนี้ให้ตัวเด็กซึ่งเป็นวัยที่มีทั้งความคิดที่บริสทุธิ์ไร้เดียงสา และจะเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติ แต่กลับต้องมาเห็นการกระทำของผู้ใหญ่บางคนที่มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่แล้วเด็กจะไม่เกิดการเลียนแบบหรือ ? ผู้ใหญ่ในโฆษณาดังกล่าว(รวมไปถึงเรื่องจริงในสังคมหลายคน) ทราบดีอยู่แก่ใจว่าสูบบหรี่ก็มีแต่จะให้โทษ มันน่าคิดตรงที่ว่าในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าไม่ดีแล้วยังจะสูบทำไม ในเมื่อคุณไม่อยากให้คนรอบข้างต้องสูบ เป็นห่วงคนอื่น แต่ทำไมไม่เป็นห่วงตัวคุณเอง และอีกมุมมองจะเห็นได้ว่าการที่เราจะไปสอนคนอื่นนั้น ดังเช่นผู้ใหญ่ในโฆษณาสอนเด็ก เราก็ควรจะทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีก่อน..

        จริงอยู่ที่สื่อโฆษณาอาจจะไม่ใช่หนทางที่จะกำจัดบุหรี่ออกจากสังคมไทย หากแต่อยู่ที่กำลังใจ และความมุ่งมั่นของตัวบุคคลนั้นๆ เองด้วย ว่าเขาจะตัดสินใจเลือกที่จะเดินออกจากแวดวงบุหรี่หรือไม่ น้ำเองก็ได้แต่หวังว่าหากใครได้ดูสื่อโฆษณาดังกล่าวแล้วจะหันมาฉุกคิดถึงพิษภัยของบุหรี่ และมีความตั้งใจจะเลิกพฤติกรรมดังกล่าวอย่างจริงจังกันบ้างไม่มากก็น้อยเน้อ  วันนี้ก็พอเท่านี้ก่อนล้ะกันเนอะ ไว้โอกาสหน้าเฝ้าติดตามกันดีดีนะคะว่าน้ำจะมีเรื่องอะไรมาเล่าสู่กันฟังอีก บ๊ายบายค่า ^_^
     





ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=955000007744
 

  ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต
 (Ban tobacco advertising, promotion and sponsorship)
คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก 2556